เคยมีคำกล่าวเอาไว้ว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรให้เรามุ่งมั่นที่จะเป็นที่หนึ่งให้ได้ เพราะ “ไม่มีใครจดจำคนที่มาเป็นที่สอง” แต่สำหรับในวงการคริปโตแล้ว ถึงแม้ Bitcoin จะครองแชมป์เหรียญที่มีคนนิยมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง แต่เหรียญ Ethereum ที่ตามมาเป็นอันดับสองก็มีนักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจไม่แพ้กัน แต่จะเพราะอะไรนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ
เหรียญ Ethereum คืออะไร?
อันที่จริงแล้วคำว่า “เหรียญ Ethereum” ที่เราพูดกันจนติดปากนั้นมันไม่ใช่ชื่อเหรียญจริงๆ แต่เป็นชื่อเครือข่ายปฏิบัติการบนบล็อกเชนที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย วีตาลิค บูเจริน (Vitalik Buterin) หนุ่มน้อยชาวรัสเซียที่กลายเป็นมหาเศรษฐีคริปโตที่อายุน้อยที่สุดในโลกในภายหลัง
อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กร Enterprise Ethereum Alliance (EEA) ที่เป็นการรวมตัวกันของบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก เช่น Microsoft, Toyota และ Intel เพื่อให้ระบบ Ethereum เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกด้วย ซึ่งถ้าหากเราเข้าไปถอดรหัสในเครือข่าย Ethereum สำเร็จ เราก็จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ Ether (ETH) มา แต่เพราะมันเป็นเหรียญที่ได้มาจากเครือข่าย Ethereum คนเลยเรียกมันด้วยชื่อของเครือข่ายจนติดปากมาถึงทุกวันนี้
เหรียญ Ethereum มีดียังไง?
ซึ่งแน่นอนว่าระบบของ Ethereum ก็ไม่ได้เหมือนกับ Bitcoin เสียทีเดียว เพราะถึงแม้จะเป็นเหรียญคริปโตเหมือนกัน แต่ Ethereum ถูกออกแบบมาให้ก้าวข้าม Bitcoin ดังนั้น Ethereum จึงไม่ได้มีไว้ใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนในธุรกรรมทางการเงินเท่านั้น แต่เป็น Open Source ที่ใครก็สามารถเข้ามาเขียนโปรแกรม ใส่ข้อมูล สร้างสกุลเงินใหม่ หรือสร้างแอปพลิเคชันเป็นของตัวเองบนเครือข่าย Ethereum ได้ แต่ผู้ใช้ก็ต้องเคารพกฏที่ใช้ร่วมกันบน Ethereum ด้วย
คุณสมบัติดังกล่าวนี้อาจจะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วมันสามารถเอามาประยุกต์เข้ากับชีวิตประจำวันได้ เพื่อให้เราสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น เพราะถึงแม้เราจะสร้างแอปเองไม่เป็น แต่เราก็ยังสามารถใช้ระบบ Smart Contract ในการร่างสัญญาต่างๆ ได้ เช่น ถ้าเราปล่อยบ้านให้เช่า เราก็แค่ต้องร่างสัญญาให้ลูกค้าเซ็นแล้วเชื่อมต่อกลอนประตูแบบดิจิทัลไว้ ถ้าหากลูกบ้านไม่จ่ายค่าเช่าผ่านระบบ Ethereum ทุกเดือนตามสัญญา ประตูก็จะล็อคอัตโนมัติ เราจะได้ไม่ต้องไปตามทวงหนี้หรือไล่ลูกค้าออกจากบ้านเอง
นอกจากนี้เหรียญ Ethereum ยังมีจำนวนไม่จำกัด ผิดกับ Bitcoin ที่ตั้งโปรแกรมไว้ให้มีจำนวนแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ในจุดนี้บางคนอาจมองว่าการจำกัดเหรียญแบบ Bitcoin ดีกว่า เพราะเป็นการป้องกันเงินเฟ้อและทำให้ความต้องการเหรียญ Bitcoin ในตลาดพุ่งสูงขึ้น แต่สำหรับบางคนอาจชื่นชอบแบบเหรียญ Ethereum มากกว่า เพราะมันทำให้การแข่งขันในตลาดไม่สูงจนเกินไป ใครๆ ก็มีสิทธิ์ครอบครองเหรียญ Ethereum ได้ ดังนั้นในจุดนี้เพื่อนๆ ก็ต้องพิจารณาข้อมูลและตัดสินใจให้ดีๆ นะคะว่าเพื่อนๆ ชอบเหรียญแบบไหนมากกว่ากัน
ถ้าหากใครเลือกเหรียญที่ชอบได้แล้วก็อย่าลืมหาซื้อเครื่องขุดมาขุดเหรียญเหล่านี้มาไว้ครอบครองกันด้วย ทาง imakrig เรามีเครื่องขุดให้เลือกหลากหลาย ทั้งเครื่องขุดที่เหมาะกับเหรียญ Ethereum และเครื่องขุดที่เหมาะกับเหรียญ Bitcoin เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถทักเข้ามาที่เฟสบุ๊ก imakerig, ไลน์ @imakerig, หรือโทรเข้ามาที่เบอร์ 065-163-5692 ได้เลยนะคะ ทางเรามีแอดมินที่จะคอยให้คำแนะนำและบริการเป็นอย่างดี เพื่อให้เพื่อนๆ แน่ใจได้ว่าจะได้เครื่องขุดที่ใช่กลับบ้านไปแน่นอน