ถึงคราวบริษัทใหญ่อย่าง จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ออกโรง เดินหน้าสร้างโอกาสเพื่อต่อยอดธุรกิจอื่นๆ ในอนาคต หวังเป็น Bitcoin Mining Farm ที่ใหญ่ที่สุดของ ASEAN จึงได้ส่ง บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ลงสนามธุรกิจ ‘ขุด Bitcoin’ พร้อมทิ้งทายด้วย ความมั่นใจว่า “ประสบความสำเร็จแน่นอน”
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS กล่าว “Cryptocurrency เป็น Mega Trend ของโลก”
นายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ JAS ในการบุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ท้าทาย มองว่าธุรกิจเกี่ยวกับ Cryptocurrency เป็น Mega Trend ของโลก การประมวลผลต่างๆ จะเป็นแบบไร้ศูนย์กลาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับ JAS มากในอนาคต โดยรวมมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในส่วนของ Bitcoin Mining จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการไกล หาโอกาสและช่องทางเพื่อต่อยอดธุรกิจของ JAS ทำให้การเริ่มต้นของ JTS เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบัน JTS ได้เริ่มติดตั้งและเดินเครื่องขุด Bitcoin รวมถึงได้ลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องขุดเพิ่มอีกจำนวน 500 เครื่อง โดยจะเริ่มจัดส่งและทยอยติดตั้งภายในไตรมาส 3/2564 ที่ Jastel Data Center พร้อมขยายเฟสที่สอง เสริมกำลังการขุดอีก 5,000 เครื่องในต้นปี 2565
นายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ JTS กล่าวว่า “ที่ผ่านมา JTS ประสบความสำเร็จกับ Data Center ที่ได้มาตรฐาน พร้อมต่อยอดธุรกิจจากประสบการณ์การที่ผ่านมา ด้วยความเป็นมืออาชีพของบุคคลากร รวมถึงพันธมิตรต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งทางบริษัทได้ศึกษาเรื่อง Bitcoin มาระยะหนึ่ง และมองว่าตอนนี้ เป็นจังหวะและโอกาสที่ดี จากการยอมรับ Bitcoin ในวงกว้าง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนทำให้ Hashrate ลดลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือน”
แผนการทำธุรกิจและการลงทุน JTS ตั้งเป้าขยายกำลังการขุดเป็น 50,000 เครื่อง ก่อน Bitcoin Next Halving ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2567 ด้วยกำลังการขุดนี้ จะทำให้ JTS สามารถขุด Bitcoin ได้ไม่น้อยกว่า 16,000 BTC ต่อปี โดยคำนวณที่ค่า Difficulty Level ในปัจจุบัน (ราคาปัจจุบัน 1 BTC = 1,056,205 บาท) ทำให้มีกำลังการขุดรวมมากกว่า 5 Exahash/s หรือคิดเป็นประมาณ 5% ของกำลังการขุดรวมทั่วโลก ก็จะทำให้ JTS ขึ้นเป็น Bitcoin Mining Farm ที่ใหญ่สุดของ ASEAN
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกเตือน ผู้ลงทุนให้ระมัดระวังก่อนตัดสินใจซื้อขาย
เนื่องจาก JTS เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ไปไม่นาน จึงออกเตือนผู้ลงทุนให้ระมัดระวังก่อนตัดสินใจซื้อขาย โดยให้พิจารณาปัจจัยพื้นฐานให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะสภาพการซื้อขายปรับตัวเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ด้วยอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ที่สูงถึง 895 และอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/BV) ที่ 40 เท่าตามลำดับ
ที่ปรึกษาและรับประกอบ RIG ขายเครื่อง ASIC ทุกรุ่น ส่งทั่วประเทศ imakerig : https://www.facebook.com/iMakeRig
